รีวิวหนัง | John Lewis Good Trouble

ชื่อเรื่อง John Lewis : Good Trouble
ประเภท สารคดี
นำแสดงโดย จอห์น ลูวิส , ฮิลลารี คลินตัน , เอไลจาห์ คัมมิงส์
กำกับโดย ดอว์น โอปอร์เทอร์
กำหนดฉาย 16 ธันวาคม 2021
ความยาว 96 นาที

เรื่องราวชีวิตและอาชีพของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองในตำนานและผู้แทนประชาธิปไตยจากจอร์เจีย จอห์น ลูอิสหนังได้ใช้ ใช้บทสัมภาษณ์และฟุตเทจที่หายาก บันทึกเหตุการณ์ 60 ปีของการเคลื่อนไหวทางสังคมและการดำเนินการทางกฎหมายของรัฐต่อ “จอห์น ลูอิส” นอกเหนือการสัมภาษณ์ ลูอิส และครอบครัวแล้ว ยังรวมถึงการสัมภาษณ์ผู้นำทางการเมือง เพื่อนร่วมงานในรัฐสภา และบุคคลอื่นๆ ที่มีความโดดเด่นในชีวิตของเขา

“John Lewis: Good Trouble” เป็นเรื่องราวชีวิตและอาชีพของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองในตำนานและผู้แทนประชาธิปไตยจากจอร์เจีย จอห์น ลูอิสหนังได้ใช้ ใช้บทสัมภาษณ์และฟุตเทจที่หายาก บันทึกเหตุการณ์ 60 ปีของการเคลื่อนไหวทางสังคมและการดำเนินการทางกฎหมายของรัฐต่อ จอห์น ลูอิส นอกเหนือการสัมภาษณ์ ลูอิส และครอบครัวแล้ว ยังรวมถึงการสัมภาษณ์ผู้นำทางการเมือง เพื่อนร่วมงานในรัฐสภา และบุคคลอื่นๆ ที่มีความโดดเด่นในชีวิตของเขา

หนังสารคดีเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนังที่เหมาะกับคนทั่วไป แต่ก็อยากให้ทุกคนได้มาศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในสังคมอเมริกา เมื่อหลายทศวรรษก่อนและนำมาสู่การขับเคลื่อนและการเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นถึงในปัจจุบัน ด้วยความพยายามที่จะลดบั่นทอนคำว่า “เหลื่อมล้ำ” ออกจากสังคม กลายมาเป็นคอมมูนิตี้ใหญ่ที่ทรงพลังอยู่ไม่น้อย

น่าแปลกใจที่ดูเหมือนว่าแกนหลักเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน John Lewis: Good Trouble ช่างคล้องจองและคล้ายกับประเด็นทางสังคมและการเมืองในบ้านเรา ณ ตอนนี้ อยู่เสียจริง จึงไม่น่าแปลกใจหากว่าผู้ชมจะดูและอินไปกับเรื่องราวเหล่านี้ได้ง่ายๆ เพราะนี่ก็ไม่ต่างกับวลีที่ว่า “ดูหนังแล้วย้อนดูรอบตัว” ก็หนังเรื่องนี้สามารถสะท้อนหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นปัจจุบัน แม้ว่าภูมิหลังในหนังนั้นจะเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสัก 50-60 ปีที่แล้ว แต่กลับรู้สึกว่ายังคุ้นเคยเหมือนอยู่คลุกคลีอยู่ใกล้ตัว

จอห์น ลูอิส 1 ใน 6 ผู้นำทางความคิดของคนผิวดำและคนด้อยโอกาสในอเมริกา ผู้ที่อุทิศตนเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมในสันติวิธี แม้จะมีการจับกุมถึงมากกว่า 40 ครั้ง รวมถึงการถูกฝ่ายจับกุมทำร้ายร่างกายจนอาการบาดสาหัสหลายต่อหลายครั้ง เขายังคงมุ่งมั่นที่จะเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองในฐานะรองผู้อำนวยการมูลนิธิภาคสนามและการมีส่วนร่วมในโปรแกรมการลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งของสภาภูมิภาคตอน ในปี 1966 ภายใต้การนำของเขา รัฐบาลได้เปลี่ยนแปลงบรรยากาศทางการเมืองของประเทศด้วยการเพิ่มชนกลุ่มคนผิวดำเกือบสี่ล้านคนในรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

นอกจากนี้ จอห์น ลูอิสได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ ให้กำกับดูแลหน่วยงานอาสาสมัครของรัฐบาลกลางในปี ค.ศ. 1977 ในช่วงท้ายของชีวิต ลูอิส พยายามผลักดันกฎหมายห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติต่อ และพยายามผ่านร่างกฎหมายการแต่งงานของบุคคลเพศเดียวกัน นอกจากนี้ ลูอิสยังมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยหาเสียงให้บารัก โอบามา ในปี 2008 จนโอบามาเอาชนะฮิลลารี คลินตันไปได้ และได้เป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของประเทศสหรัฐอเมริกาในที่สุด