รีวิวหนัง Supposed สมมติ

ชื่อเรื่อง : Supposed สมมติ
ประเภท : โรแมนติก / ดราม่า
นักแสดงนำ : อนันดา เอเวอริงแฮม / ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช
ผู้กำกับ : ธรกร พงษ์สุวรรณ
ความยาว : 98 นาที

รีวิวหนัง Supposed เป็นหนังแนวดราม่า โรแมนติก ที่ผ่านการเล่าเรื่องของผู้กำกับไทยมากฝีมือหลังจากที่สร้างผลงานให้คนดูได้ตามมาหลายเรื่อง โดยการกลับมาในครั้งนี้จะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงบริบทของคนสังคมยุคใหม่ที่ต่างตกเป็นเครื่องมือของโซเซียลโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างขึ้นมาให้คนอื่นได้เห็นและรับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตส่วนตัว รวมไปถึงการปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อให้คนอื่นสนใจ จนนำไปถึงการนำพาไปสู่การค้นพบโลกที่แท้จริงของใครหลายคนหนังเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน

เรื่องราวของความดราม่าเริ่มต้นที่ เมืองใหญ่ใจกลางกรุงที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายต่างใช้ชีวิตไปตามกลไกลของเวลา ซึ่งหนึ่งในนั้นมันก็มี นน ชายหนุ่มวัยในวัยทำงานต่างใช้ชีวิตอย่างโดนเดี่ยวในเมืองใหญ่ที่ไม่เคยเหงา แต่มันช่างต่างไปจากตัวของเขาเองที่ตกอยู่ในสภาวะอยู่ลำพัง นน มักจะเป็นคนที่อยู่กับโซเซียลและทำตามกระแสอเพื่ออัปเดตตัวเองอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันเขายังมีพฤติกรรมบางอย่างหรืออ่อนไหวกับสิ่งรอบข้างได้ง่าย

ด้วยเหตุนี้ นน ก้ได้มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งผ่านโลกออนไลน์ เธอใช้ชื่อว่า เดียร์ สาวดูภายนอกแสนจะสดใสรักสนุก แต่ดูลึกลับน่าค้นหา โดยทั้งคู่ก็ได้ตกลงกันเพื่อมาเจอกันพร้อมกับไปเดทแบบสองต่อสอง แต่หารู้หรือไม่ว่าโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกที่ทั้งคู่ปรุงแต่งขึ้นมาอาจไม่ได้เหมือนกันเสมอไป การได้รู้จักมันอาจเป็นเพียงการใส่หน้ากากเข้าหากันก็ได้ การที่คนไม่ปกติสองคนได้มารู้จักกัน คบกัน จะสามารถสานสัมพันธ์ได้จริงหรือเปล่า

หลังจากที่ทั้งคู่อย่าง นน และ เดียร์ ต่างมีความสุขกับโลกที่สร้างขึ้นมานั้น ก็นับว่าเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายให้กับนนได้เป็นอย่างดี แม้บางครั้งนนพยายามที่จะค้นหาความจริงของชีวิตเดียร์ว่าทำงานอะไร ที่ไหนก็ไม่ได้คำตอบจริง ๆ สักที ความผูกพันเพิ่มพูนมากขึ้นจนล้ำเส้นของกติกาที่ตกลงกันไว้พร้อมกับพฤติกรรมบางอย่างที่อีกฝ่ายไม่สามารถรับได้จนกลายเป็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มสั่นคลอน จากแรก ๆ ดูหอมหวานจนนำมาสู่คำที่ว่า น้ำผึ้งอาบยาพิษ

ความรู้สึกหลังจากดู Supposed สมมติ

สำหรับหนัง Supposed ถือเป็นหนังที่เล่นกับจิตวิทยาของคนดูได้เป็นอย่างดี ภายในเรื่องจากเล่าเรื่องไปทีละนิดเพื่ออธิบายความรู้สึกของตัวละครจนนำมาสู่การได้พบกับใครสักคน จากคนเหงา ๆ คนนึ่งเป็นคนที่มีคนข้างกาย แต่หากสามารถยับยั้งได้ถึงจุดเริ่มต้นก็ควรที่จะรักษาระยะห่างเอาไว้จะดีกว่า ตัวหนังถือว่ากระซากหน้ากากคนในสังคมปัจจุบันได้กลมกล่อม ของโลกสองใบแต่ต้องใช้ชีวิตแบบคู่ขนาน หากใครกำลังหาหนังรักดราม่าดูเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ