รีวิวหนัง WHISPER OF THE HEART วันนั้น วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู
ชื่อเรื่อง : WHISPER OF THE HEART วันนั้น วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู
ประเภท : โรแมนติก / ชีวิต
ให้เสียงโดย : อิสเซ ทาคะฮาซิ / บริตทานี สโนว์ / โทชิโอะ ซูซูกิ / แอชลีย์ ทิสเดล
ผู้กำกับ : โยชิฟูมิ คนโต
ความยาว : 111 นาที
รีวิวหนัง WHISPER OF THE HEART ภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าไลฟ์แอคชั่นจากอนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการรับชมอนิเมชั่นญี่ปุ่นเชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักสตูดิโอจิบลิอย่างแน่นอน สตูดิโอดังกล่าวนั้นมีการใช้งานภาพที่เป็นเอกลักษณ์ การเล่าเรื่องราวนั้นนอกจากจะสนุกสนานแล้วยังเต็มไปด้วยข้อคิดมากมายและมีความซึ้งให้เราได้สัมผัสอย่างน่าประทับใจทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เล่าแบบเบาๆ หรือแม้แต่เรื่องที่เต็มไปด้วยความหนักหน่วงหัวใจเองก็ตาม
การร้อยเรียงเรื่องราวของอนิเมชั่นแต่ละเรื่องนั้นเต็มไปด้วยความสวยงามจนทำให้ทุกคนต่างยกย่องให้สตูดิโอดังกล่าวนั้นเป็นหนึ่งในด้านการสร้างงานอนิเมชั่นกันเลยทีเดียว และล่าสุดก็ได้มีการหยิบยกนำเอาอนิเมชั่นระดับตำนานขึ้นหิ้งของสตูดิโอดังกล่าวมาสร้างใหม่ในฉบับคนแสดงอย่าง WHISPER OF THE HEART หลังจากเวลาผ่านล่วงเลยมาเกือบ 30 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่เคยรับชมอนิเมชั่นมาก่อนก็คงอยากจะลองรับชมฉบับไลฟ์แอคชั่นกันอย่างแน่นอน เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร โดยเรื่องราวจะเล่าถึงชิซูกุ เด็กหญิงชั้นประถมปีที่ 3 ที่ได้รู้จักกับเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกันอย่างเซอิจิ ในตอนแรกเธอรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับเขาสักเท่าไหร่จนกระทั่งเธอได้ค้นพบว่า
เขานั้นมีความพยายามเป็นอย่างมากในการทำตามความฝันให้สำเร็จ ในขณะเดียวกันเองเขาก็รู้ด้วยว่าเธอนั้นต้องการที่จะทำความฝันในการเป็นนักเขียนให้สำเร็จเช่นเดียวกัน เวลาผ่านล่วงเลยมาเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปี เด็กหญิงในวันนั้นตอนนี้มีอายุ 24 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเธอก็ได้ละทิ้งความฝันในวัยเด็กไปตลอดกาล แทนที่จะได้เป็นนักเขียน ตอนนี้เธอกลายมาเป็นกองบรรณาธิการในสำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือเยาวชน เธอต้องใช้ชีวิตอย่างทุลักทุเลและพยายามพยุงให้ในแต่ละวันสามารถผ่านไปได้ด้วยดี ในขณะที่ตอนนี้ซาอิจิยังคงวิ่งไล่ตามความฝันของตัวเองอยู่ในต่างประเทศตามเดิม เรื่องราวของพวกเขาจะลงเอยอย่างไรต้องไปติดตามรับชมกัน
ความรู้สึกหลังจากดู WHISPER OF THE HEART
WHISPER OF THE HEART เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากอนิเมชั่นระดับตำนานของสตูดิโอจิบลิดังนั้นแน่นอนว่าเรื่องราวมันจึงมีความน่าสนใจและความสวยงามด้วยตัวของมันเองอยู่แล้วอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการหยิบยกนำเอาอนิเมชั่นเก่าสมัยยุค 90 มาปัดฝุ่นสร้างใหม่ในตอนนี้แถมยังไม่ได้มีการดัดแปลงบทให้เข้ากับยุคสมัยมากพอดังนั้นมันจึงมีความเชยและขาดเสน่ห์ไปอย่างน่าเสียดาย
เรื่องราวที่เล่านั้นก็เหมือนกับเรื่องราวย้อนยุคยังไงอย่างนั้น ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกย้อนนึกถึงกลับไปในวันที่เราได้รับชมอนิเมชั่นเรื่องนี้สมัยยังเป็นเด็กได้เท่าที่ควร ประกอบกับเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้มันเหมาะสำหรับการทำเป็นอนิเมชั่นมากกว่ามาทำเป็นฉบับคนแสดงเนื่องจากมีความแฟนตาซีที่ค่อนข้างเพ้อฝัน เมื่อนำเอามาทำเป็นฉบับคนแสดงมันเลยมีบางจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย นอกจากนี้ในบางฉากที่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิกในการสร้างสรรค์ภาพออกมาก็ยังดูโดดออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือภาพตัดต่อชัดๆ
อีกต่างหาก ดังนั้นถึงแม้ว่าการออกแบบงานภาพจะทำออกมาได้ค่อนข้างสวยงามและมีความโรแมนติกแต่มันก็ไม่แนบเนียนเท่าที่ควรแต่อย่างใด สำหรับคนที่เคยรับชมอนิเมชั่นมาแล้วคงต้องบอกกันตามตรงว่าค่อนข้างที่จะผิดหวัง แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยรับชมอนิเมชั่นมาก่อนแล้วมาดูก็อาจจะรู้สึกว่ามันไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดีในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือสารที่ต้องการจะสื่อสารให้กับผู้รับชมยังคงครบถ้วนเหมือนกับฉบับอนิเมชั่น เพียงแต่ว่าหากเปรียบเทียบกันแล้วมันอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบเท่ากับฉบับอนิเมชั่นเท่านั้นเอง
รับชมตัวอย่างหนัง : WHISPER OF THE HEART
ขอบคุณวิดีโอจาก youtube.com
ติดตามรีวิวหนังเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บรีวิวหนัง
รีวิวหนังเพิ่มเติม : รีวิวหนัง THE BAD GUYS : REIGN OF CHAOS ทีมวายร้าย ล่าทรชน
เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี : doofree4u.com